ส่วนที่มีขนตามร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็น ขนรักแร้ ขนมือและเท้า ขนหัวหน่าว

ถ้าพูดถึงตามหน้าที่ของมันทางสรีรวิทยาแล้วนั้น… ขนพวกนี้จะมีหน้าที่ป้องกันแสงแดด

ป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้า และควบคุมอุณหภูมิของร่างกายของเราไว้

ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจได้ หากสาวๆแต่ละคนมีความคิดแตกต่างกันออกไป

บางคนเลือกจะกำจัดขนตามส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อความสวยงาม

ซึ่งบริเวณที่คนนิยมกำจัดขนคือขนรักแร้ ขนมือ และขนเท้า

บางคนเลือกที่จะตกแต่งขนบริเวณหัวหน่าวสำหรับใส่บิกินี่ กางเกงหรือกระโปรงสั้น

แต่ในทางกลับกัน..บางคนก็เลือกที่จะเก็บขนตามส่วนต่างๆของร่างกาย เพื่อรักษาการทำงานทางกายภาพ

 

วิธีการกำจัดขนที่พบได้ทั่วไป มี 4 วิธี ดังนี้

 

1. มีดโกน

การใช้มีดโกนเป็นวิธีที่เร็วและถูกที่สุด

เช่นเดียวกับการโกนหนวดของผู้ชาย ให้ใช้ใบมีดพิเศษเพื่อกำจัดขนตามร่างกาย

จำเป็นต้องทำความสะอาดใบมีดทุกครั้งก่อนใช้งาน

แนะนำให้ ทำให้ขนเปียกก่อนและทามูสเพิ่ม ก่อนการโกนเพื่อลดการเสียดสีระหว่างใบมีดกับผิวหนัง

และเนื่องจากขนของเราจะขึ้นไวมากหลังโกน ฉะนั้นเวลาในการบำรุงผิวหลังโกนจะค่อนข้างจำกัด

เพราะหากขนเกิดขึ้นมาแล้ว ผิวไม่ได้รับการบำรุงอย่างเหมาะสมหลังโกน

อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นอักเสบ เกิดเป็นขนคุดได้

 

2. แว็กซ์

เป็นวิธีการใช้ขี้ผึ้งที่ผ่านการทำให้อุ่นและเหลว แล้วนำไปทาให้คลุมลงบนขนให้ทั่ว

รอให้ขี้ผึ้งเย็นลงแล้วจึงดึงแผ่นขี้ผึ้งออก

วิธีนี้เป็นอันตรายต่อผิวหนังน้อยกว่าการใช้มีดโกน

แต่ความเจ็บปวดนั้นก็อาจไม่ได้เป็นที่ยอมรับของทุกคน

ระยะเวลาของการกำจัดขนด้วยแว็กซ์ร้อนอาจมีประสิทธิภาพและนานกว่าการใช้มีดโกนเล็กน้อย แต่จะแตกต่างกัน แล้วแต่คน

เนื่องจากวงจรการเจริญเติบโตของขนที่แตกต่างกัน

แม้ว่าเราจะเคยได้ยินว่า การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการไปแว๊กซ์ขนนั้น อาจจะช่วยทำให้สาวๆผ่อนความเจ็บลงได้บ้าง

แต่ความจริงแล้วนั้น การดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้การแว๊กซ์ยากขึ้นไปอีกแถมยังเจ็บมากขึ้นอีกด้วย

 

3. ครีมกำจัดขน

ครีมกำจัดขนโดยทั่วไปนั้นมีสารเคมีแคลเซียม ไทโอไกลโคเลทซึ่งมีหน้าที่หลักในการละลายโปรตีน

ช่วยให้ขนเปลี่ยนรูปและเผาผลาญเคราติน

ดังนั้นครีมกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีแคลเซียม ไทโอไกลโคเลทที่มีความเข้มข้นสูง

อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ผื่นแดง และอาจทำให้เม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้นได้

และด้วยเหตุผลนี้..ทุกประเทศจึงต้องมีข้อจำกัดเกี่ยวกับความเข้มข้นของแคลเซียมไธโอไกลโคเลต

 

ในหลายๆประเทศ ระบุประเภทของแคลเซียมไธโอไกลโคเลตเป็นประเภทของเครื่องสำอางค์

ซึ่งต้องมีปริมาณน้อยกว่า  5% ยกเว้นประเทศไต้หวัน

ที่ระบุเป็น สารเคมีทางการแพทย์ และทุกๆขั้นตอนในการขายและโฆษณา

จะต้องผ่านการตรวจสอบโดยรัฐบาลไต้หวันก่อนเท่านั้น

(ปริมาณสารแคลเซียมไธโอไกลโคเลตและเกลือของสารเคมี)

 

4. เลเซอร์กำจัดขน

เนื่องจากการเลเซอร์ขน เป็นการใช้ความร้อนในการทำลายเซลล์บริเวณรากขนให้ฝ่อ

หยุดการเจริญเติบโต เพื่อไม่ให้ขนงอกใหม่ได้

เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด มากกว่าการกำจัดขนวิธีอื่นๆ

ซึ่งจะใช้ระยะในการทำ 6 -8 ครั้ง ถึงจะสามารถกำจัดขนได้หมด

แต่ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะที่สุดเช่นกัน

ผิวของเราหลังจากโดนเลเซอร์จะบอบบางมาก

หากไม่ระวังหรือดูแลให้ดี อาจมีอาการแพ้ มีรอยคล้ำ แดงหรือบวมได้

 

และเมื่อเปรียบเทียบ สรุปทั้ง 4 วิธีแล้ว

ในด้านประสิทธิภาพของการกำจัดขน จะเห็นได้ชัดว่า การกำจัดขนด้วย 'เลเซอร์' มีประสิทธิภาพมากที่สุด

แต่หากคำนึงถึงราคา ก็ต้องยอมรับว่า ยังไง'มีดโกน' ก็ราคาถูกที่สุด

และถ้าพูดถึงการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นหลังการกำจัดขน เพราะ'ครีมกำจัดขน'

มีส่วนผสมของสารเคมีที่ต้องควบคุม อาจทำให้เกิดโอกาสที่ผิวจะระคายเคืองได้ง่ายที่สุดเช่นกัน

แม้ว่าวิธีการกำจัดขนแต่ละวิธีจะมีความแตกต่างกัน

ในด้านการใช้ราคา ราคา และประสิทธิภาพในการกำจัดขน

สาวๆสามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองและเงินในกระเป๋าได้

แต่เพื่อให้สาวๆได้บรรลุความตั้งใจในการกำจัดขน

อย่าลืมพิจารณาสิ่งที่ต้องทำก่อน-หลังให้ดีก่อนเริ่มที่จะกำจัดขนด้วย

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ (ที่นี่)

หากทำได้ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้ดียิ่งขึ้น

🙂

 

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป ไม่ได้เจตนาเพื่อทดแทนการวินิจฉัยหรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ 
หากมีคำถามเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล โปรดขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอีกครั้ง